ย่อ / ขยาย

การลงพื้นโครงการส่งเสริมการเลี้ยงปลากะพงขาว และ กุ้งก้ามกราม จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ กรรมการนายทะเบียน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง  นำคณะ พร้อมด้วย คุณอดิศร์  กฤษณวงศ์  คุณวิบูลย์ สุภัครพงษ์กุล รองประธาน และ ดร.อดิศร พร้อมเทพ ที่ปรึกษา ลงพื้นที่ส่งเสริมการเลี้ยงปลากะพงขาวและกุ้งก้ามกราม ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี คุณจิตรกร เผด็จศึก ประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา คุณสุทธิ มะหะเลา นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาทะเลไทย คุณสมประสงค์  เนตรทิพย์  นายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทย เข้าร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการขับเคลื่อนและส่งเสริมการเลี้ยงปลากะพงขาวและกุ้งก้ามกรามให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจในจังหวัดฉะเชิงเทรา  ร่วมกับ ประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา , พาณิชย์จังหวัดฉะเชิงเทรา เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาว และกุ้งก้ามกรามจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีสาระสำคัญดังนี้

ความเป็นมาและความสำคัญของการส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวซึ่งประเทศไทยมีผลผลิตปลาน้ำกร่อยมากที่สุดในประเทศไทย โดยผลิตปลากะพงขาว คิดเป็นร้อยละ 21.81 ของปริมาณปลากะพงในประเทศ โดยปี 2565 ประเทศไทยมีปริมาณปลากะพง จำนวน 54.4 พันตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6.4 พันล้านบาท โดยประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกปลากะพง อันดับที่ 16 ของโลก แต่สถานการณ์การเพาะเลี้ยงในช่วง 10 ปี (2556-2566) พบว่าปลากะพงขาวที่เกษตรกรขายได้ลดลงร้อยละ 0.43 ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพง ยังพบอุปสรรคที่สำคัญได้แก่ ต้นทุนอาหาร พลังงาน และค่าแรงงานจับสัตว์น้ำ และปัญหาการลักลอบนำเข้าปลาเข้ามาในประเทศจำนวนมากส่งผลต่อคุณภาพและการบริโภคภายในประเทศ อีกทั้งยังประสบพบโรคระบาดในปลากะพงขาวและฟาร์มหลายฟาร์มยังไม่มีมาตรฐาน GAP

ในส่วนกุ้งก้ามกราม เป็นสัตว์น้ำจืดที่มีผลผลิตสูงสุดเป็นอันดับ 3 จากผลผลิตสัตว์น้ำจืดทั้งหมด (รองจากปลานิลและปลาดุก) โดยมีปริมาณผลผลิตในปี 2565 จำนวน 46 พันตัน คิดเป็นมูลค่า 8,879 ล้านบาท ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามประสบปัญหาต้นทุนค่าอาหารและราคาพลังงานสูง ขาดการรวมกลุ่มของเกษตรกร อีกทั้งฟาร์มไม่มีมาตรฐาน GAP และยังมีการปนเปื้อนของโรค ยา และสารเคมี และยังไม่มีการพัฒนาสู่การแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม

คณะกรรมการธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้ลงพื้นที่หารือกับเกษตรกรกลุ่มและเยี่ยมชมการพัฒนา ศักยภาพการเลี้ยงปลากะพงขาวและกุ้งก้ามกรามของเกษตรกรผู้เลี้ยง ณ แพปลากะพงขาวผู้ใหญ่นรินทร์ และแพกุ้งเอก-อร  จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยได้มีข้อสรุปนวทางการขับเคลื่อนและส่งเสริมการเลี้ยงปลากะพงขาวและกุ้งก้ามกรามให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจในจังหวัดฉะเชิงเทราเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก มีดังนี้

 

ข้อเสนอและแนวทางการขับเคลื่อนปลากะพงขาว ดังนี้

1) ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรและจัดทำ Concept Paper ยุทธศาสตร์ปลากะพงขาว โดยมี ผู้แทนคณะกรรมการธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา สมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาทะเลไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดฉะเชิงเทรา และผู้แทนเกษตรกรในพื้นที่

2) ยกระดับปลากะพงขาว ให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน GAP ตลอด Value Chain เพื่อเชื่อมโยงตลาดภายในและต่างประเทศ

3) เร่งรัดการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้การบริโภคปลากะพงขาวมาตรฐานปลอดภัยไทยทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ (อาทิ การทำตราสินค้าปลากะพงขาวปลอดภัย , การจัดทำคลิปประชาสัมพันธ์การบริโภคปลากะพงขาวปลอดภัย)

4) ร่วมมือศึกษาสร้างองค์ความรู้เพื่อลดต้นทุนการผลิตใหม่ โดยเฉพาะต้นทุนอาหารสัตว์ เนื่องจากมีต้นทุนการเลี้ยงสูงกว่าต่างประเทศ 20%

5) การป้องกันการลักลอบการนำเข้าปลากะพงขาวจากต่างประเทศ โดยควรประสานงานภาครัฐ เพื่อกำหนดมาตรการการลักลอบการนำเข้าปลากะพงขาว พร้อมทั้งประสานงานให้กรมประมงสุ่มตรวจสัตว์น้ำ

6) ศึกษารูปแบบการแปรรูปปลากะพงขาวเพื่อเพิ่ม Value Added และยกระดับเศรษฐกิจฐานราก อาทิ อาหารสัตว์เลี้ยง , หรือผลิตภัณฑ์เชิงสุขภาพ ฯลฯ เป็นต้น

7) ประสานงานกรมประมง ให้ปลากะพงขาวเป็นสัตว์น้ำควบคุม เพื่อตรวจสอบย้อนกลับสินค้าปลากะพงขาว

ข้อเสนอและแนวทางการขับเคลื่อนกุ้งก้ามกราม ดังนี้

1) ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรและจัดทำ Concept Paper ยุทธศาสตร์กุ้งก้ามกราม โดยมี ผู้แทนคณะกรรมการธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา สมาคมกุ้งตะวันออกไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดฉะเชิงเทรา และผู้แทนเกษตรกรในพื้นที่

2) ประสานงานกรมประมง เพื่อหารือแก้ไขปัญหาการส่งออก กฎระเบียบ วิธีการ มาตรฐานการส่งออกยุโรป

3) ส่งเสริมเกษตรกร ให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน GAP ตลอด Value Chain เพื่อเชื่อมโยงตลาดภายในและต่างประเทศ

4) ศึกษาแนวทางการลดต้นทุนการเลี้ยงกุ้งก้าม

5) ส่งเสริมให้กุ้งก้ามกรามจังหวัดฉะเชิงเทรา ยกระดับให้ได้ GI

ข่าวอื่นๆ